ผ่านไปครึ่งทางแล้วของปี 2020 แต่เทรนด์หน้าเรียว V-shape ยังแรงดีไม่มีตก และคงไม่หมดเทรนด์ไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน ทำให้ใครหลายต่อหลายคนต่างพากันหาวิธีแก้ปัญหาหน้าบาน ให้กลายเป็นหน้าเรียวแซ่บสไตล์สาย ฝ. เพราะการมีใบหน้าที่เรียว V-shape กระชับได้สัดส่วนนั้น แต่งหน้าง่าย แถมมองมุมไหนก็ดูดี สวย ทุกมิติ วิธีที่จะทำให้หน้าเรียว หลายคนคงพากันนึกถึงการฉีด โบท็อกซ์ (Botox) เพื่อปรับกระชับรูปหน้าให้ดูดีได้อย่างรวดเร็ว แต่ปัจจุบันคู่แข่งใหม่ของโบท็อกซ์ก็มาแรงไม่แพ้กันอย่าง Ulthera ทั้งสองจะแตกต่างกันอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบค่ะ
โบท็อกซ์ (Botox) คืออะไร
โบท็อกซ์ ที่จริงแล้วคือชื่อของสารยี่ห้อหนึ่งจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีไว้ใช้ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้า ทำให้หลายคนเผลอเรียกกกันจนอย่างติดปาก ที่จริงแล้ว โบท็อกนั้นคือสาร Botulinum toxin A ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ได้จากการสร้างมาจากแบคทีเรียอย่าง คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) โดยเมื่อถูกฉีดเข้าไปในบริเวณของกล้ามเนื้อที่ต้องการแก้ไขปัญหาแล้วนั้น จะออกฤทธิ์ที่ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารที่ทำให้เคลื่อนไหวได้ จึงทำให้กล้ามเนื้ออยู่ในภาวะคลายตัว และมีขนาดที่เล็กลง จึงทำให้บริเวณที่ฉีดดูเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ โบท็อกซ์ ยังทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ ดูจางขึ้น เพราะกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ไม่ถูกใช้งาน ทำให้มีการเคลื่อนไหวน้อย จึงมีริ้วรอยลดลงนั่นเอง
โบท็อกซ์ ฉีดได้บริเวณไหนบ้าง ? ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้ ?
- โบท็อกซ์รักษาริ้วรอย ให้ดูเรียบเนียนขึ้น ลดการใช้กล้ามเนื้อบริเวณที่มีริ้วรอย
- โบท็อกซ์ลดกราม ให้หน้าดูเรียว มีความ V-shape มากขึ้น
- โบท็อกซ์ยกหางตา แก้ไขปัญหาหางตาตก ทำให้หน้าตาดูไม่สดชื่น
- โบท็อกซ์ลิฟติ้งหน้า ยกกระชับบริเวณหน้าให้ดูเต่งตึงขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
- โบท็อกซ์ตีนกา แก้ไขปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา
- โบท็อกซ์หน้าผาก แก้ไขปัญหารอยย่น รอยพับ บริเวณหน้าผาก
- โบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว แก้ไขปมปัญหาที่เกิดจากพฤติกรรม เช่น การขมวดคิ้ว
- โบท็อกซ์ลดโหนกแก้ม ลดกล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้ม โดยไม่ต้องผ่าตัด
- โบท็อกซ์ลดขนาดปีกจมูก แก้ไขปัญหาปีกจมูกแบบธรรมชาติ ไม่ให้ดูฟีบแบนจนเกินไป
- โบท็อกซ์ลดเหงื่อ ลดปัญหาเรื่องกลิ่นกาย กลิ่นอับ
- โบท็อกซ์น่อง แก้ปัญหากล้ามเนื้อบริเวณน่อง ที่มีอาการปูด บวมของกล้ามเนื้อให้เล็กลง
- โบท็อกซ์ยกมุมปาก แก้ปัญหามุมปากตกให้ดูยิ้มแย้มแจ่มใสมากขึ้น
ก่อนเตรียมตัวฉีด โบท็อกซ์ ควรเตรียมตัวอย่างไร ?
- ควรเลือกคลินิก หรือ โรงพยาบาล ที่มีมาตรฐาน มีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดโบท็อกซ์
- เลือกใช้โบท็อกซ์ของแท้เท่านั้น ควรตรวจเช็คอย่างละเอียดก่อนฉีด
- ไม่ควรฉีดมากเกิน 300 unit/1 ครั้ง
- ระหว่างการฉีด ควรมีการประคบด้วยความเย็นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการไหลเวียนของเส้นเลือด รอบบริเวณที่ฉีด จะทำให้โบท็อกซ์จำกัดอยู่ในบริเวณที่ต้องการ
- ตรวจเช็คสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง หยุดทานอาหารเสริมประเภทวิตามินอี น้ำมันปลา หรือยาแอสไพริน
- สตรีมีครรภ์ หรือ ให้นมบุตร ไม่ควรฉีด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนเข้ารับการรักษา
วิธีปฏิบัติตัวหลังฉีด โบท็อกซ์
- งดนอนนราบอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- ไม่ควรสัมผัส นวด บริเวณที่ฉีด
- งดการทำทรีทเมนต์ต่าง ๆ 1 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย เพราะการทำทรีทเมนต์ในบางครั้งอาจมีขั้นตอนการนวดหน้าที่กระทบได้
- หลังฉีด 24 ชั่วโมง งดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้เส้นเลือดขยายตัวมากยิ่งขึ้น อาจทำให้รอยเข็มหลังฉีดหายช้าลง
- หลีกเลี่ยงสถานที่ ๆ มีความร้อนสูง อย่างเช่น ซาวน่า ห้องอบสมุนไพร ห้องโยคะร้อน
Ulthera คืออะไร ?
Ulthera คือนวัตกรรมการยกกระชับผิวหรือสร้างกรอบหน้าที่ได้รับการรับรองจาก US FDA ว่าเป็นหัตถการเพื่อการยกกระชับหน้าที่มีความปลอดภัยสูง โดยเป็นการส่งคลื่นเสียงที่มีความถี่ในระดับสูง ผ่านรูปแบบ Focused Ultrasound หลักการทำงานของ Ultheraคือจะเป็นการส่งพลังงานขนาดเล็กจำนวนมากเข้าไปกระตุ้นผิวหนังชั้นลึก (ชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า) เพื่อให้ผิวที่หย่อนคล้อย ยกกระชับมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความชัดเจนของกรอบหน้า การยกแนวคิ้วบริเวณหางตา การปรับสภาพผิวหน้าให้เรียบเนียน และลดเลือนริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้น เหมาะแก่ผู้ที่มีปัญหาในเรื่องความหย่อนคล้อยของผิว ไม่ว่าจะบริเวณคิ้ว หางตา แก้ม คาง หรือคอ ผู้ที่ผิวไม่กระชับ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องอายุที่เพิ่มขึ้น ผิวขาดคอลลาเจนและอิลาสติน
Ulthera ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง
- บริเวณใบหน้า ช่วยดึงผิวหน้าและยกกระชับผิวที่มีความหย่อนคล้อย ให้กลับมาเรียบตึงได้อีกครั้ง ทำให้หน้าดูเด็กลงแบบธรรมชาติ ไม่ดูแข็งจนเกินไป โดยไม่จำเป็นต้องมีการผ่าตัดเทียบเท่ากับการดึงหน้า ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดและต้องพักฟื้น
- ยกคิ้ว แก้ไขปัญหาหนังตาตก การยกกระชับเวลาช่วงระหว่างคิ้วและดวงตาขึ้น ทำให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น ชั้นตาชัดเจนมากขึ้น จะทำให้ใบหน้าดูสดใส และดูอ่อนกว่าวัย
- แก้ไขปัญหาตาถุงใต้ตาหย่อนยาน ลดถุงใต้ตาได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ปรับรูปหน้าให้ดูเรียว มี V-shape มากขึ้น
- ลดเหนียง กำจัดคาง 2 ชั้น ยกกระชับผิวบริเวณลำคอให้ตึงและดูเรียบเนียนมากขึ้น
ข้อดีของการทำ Ulthera
เนื่องจากการทำ Ulthera นั้นเป็นการใช้คลื่นพลังงานความร้อน ส่งตรงไปยังบริเวณที่ต้องการได้รับการแก้ไข ได้อย่างตรงจุด โดยไม่ต้องผ่านการฉีด หรือ การผ่าตัด ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างทำ อาจรู้สึกเพียงอุ่น ๆ เท่านั้นในขณะทำ และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื้อเยื่อในบริเวณใกล้เคียง จึงเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง ที่จะทำให้ใบหน้ากลับมามีความกระชับ เต่งตึง เรียบเนียนได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องยุ่งยาก และให้ผลลัพธ์ได้ในทันทีหลังทำ
ผลลัพธ์ที่ได้หลังทำ Ulthera
- หลังทำ Ulthera จะค่อยเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในระหว่าง 3 – 4 เดือนแรกหลังทำการรักษา
- ผลลัพธ์หลังทำจะสามารถอยู่ได้เป็นเวลาประมาณ 1 ปี
- บริเวณที่ทำจะรู้สึกยกกระชับ และเต่งตึงขึ้น
- เกิดการฟื้นฟูของคอลลาเจนบริเวณใต้ผิวหนังที่ทำ
- รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย
การดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera
หลังจากที่รับการรักษาด้วยการทำ Ulthera เสร็จแล้ว เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องรอพักฟื้น ก็สามารถที่จะใช้ชีวิตประจำตามปกติได้เลย แนะนำให้เว้นการนวดหน้าทรีทเมนต์อย่างน้อย 1 – 2 อาทิตย์ เพื่อลดการกระทบกระเทือนในบริเวณที่ทำ รวมไปถึงงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่อาจทำให้เกิดรอยช้ำบริเวณใต้ผิวหนังได้ ซึ่งบางคนหลังทำอาจมีอาการอักเสบ หรือ ระคายเคืองผิวบ้างในครั้งแรก ถือเป็นเรื่องปกติ สามารถขอให้แพทย์ที่ดูแลจ่ายยาแก้อักเสบเพื่อบรรเทาอาการได้
เลือกทำ Ulthera หรือ Botox ดี
สำหรับคนที่มีปัญหากล้ามเนื้อเยอะ กรามหนา ต้องการรูปหน้าเรียว มีความ V-shape แนะนำว่าให้รักษาด้วยการฉีด โบท็อกซ์ จะเป็นการแก้ปัญหาได้ดีที่สุด ส่วนผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย อยากเห็นกรอบหน้าชัด ไม่อยากกังวลเรื่องเข็ม ผิวหน้าขาดความชุ่นชื้นแนะนำให้ทำ Ulthera จะตอบโจทย์มากที่สุด เพราะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ที่ผิวในทันที เพราะการทำ Ulthera เป็นการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนขึ้นมาสะสมนั่นเอง
สุดท้ายอยากฝากถึงสาว ๆ ที่รักความสวยความงาม อยากหน้าเรียว V-shape กระชับได้สัดส่วน ให้เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน และ คุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญในการทำ ก่อนตัดสินใจจาก ราคาถูก เข้าว่านะคะ ไม่อย่างงั้นละก็ผลลัพธ์ที่ได้อาจออกมาไม่ตรงกับความต้องการของตัวเองไม่พอ ยังต้องเสียเงิน แถมอาจจะต้องหาทางแก้ปัญหาในอนาคตอีกด้วย